วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Auxiliary Verb


Auxiliary Verb

Auxiliary Verb คือ "กริยานุเคราะห์" ( บางครั้งก็เรียกกริยาช่วย ( Helping Verb ) บ้าง , กริยาพิเศษ ( Anomalous Verb ) เหตุที่ได้เรียกว่า เป็นกริยานุเคราะห์หรือกริยาช่วยนั้น ก็เพราะว่ากริยาเหล่านี้ ไปทำหน้าที่ช่วยกริยาตัวอื่นเพื่อให้เป็นมาลา ( Mood ) วาจก ( Voice ) และกาล ( Tense )
Auxiliary Verb มีอยู่ทั้งหมด 24 ตัว คือ

Verb to be = is , am , are , was , were
Verb to do= need
Verb to have = has , have , had
Verb to do= dare
Verb to do = do , does , did
Verb to do= ought to
Verb to do = will , would
Verb to do= used to
Verb to do= shall , should
Verb to do= had better
Verb to do= can , could
Verb to do= would rather
Verb to do= have to ( ที่มีความหมายเท่ากับ must )
Verb to do= shoud ( ที่มีความหมายเท่ากับ ought to )

         

ตัวอย่างประโยค

will              จะ                 She will go to bed early tonight.              คืนนี้เขาจะเข้านอนแต่หัวค่ำ
Must           ต้อง               Students must listen to me first.             นักเรียนต้องฟังฉันก่อน   
Must I go with her?   ฉันต้องไปกับเธอไหม
May            อาจจะ          I may come late.                                   ฉันอาจจะมาสาย
Can             สามารถ       Can you help me?                                คุณช่วยเหลือฉันหน่อยได้ไหม
Ought to      ควรจะ          Children ought to go to bed early.         เด็กๆ ควรจะเข้านอนแต่หัวค่ำ
She ought not to smoke in class.                                                   เขาไม่ควรจะสูบบุหรี่ในห้องเรียน
*Need        จำเป็นต้อง     Need we see you off?                          พวกเราจำเป็นต้องไปส่งคุณไหม
*Dare         กล้า                I daren’t tell the truth.                          ฉันไม่กล้าบอกความจริง
Shall           จะ                   We shall study again next week.          พวกเราจะเรียนกันอีกครั้งสัปดาห์หน้า
Should        จะ (ควรจะ)     You should teach slowly.                      คุณควรจะสอนช้า ๆ
Could         สามารถ          She could  read English at the age of five.
เขาสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ
Used to       เคย                We used to swim everyday when we were children.
พวกเราเคยว่ายน้ำทุกวันเมื่อตอนพวกเราเป็นเด็ก

               หน้าที่ของกริยาช่วย

ทำหน้าที่เป็นส่วนสมบูรณ์ของประโยค (ทำให้ประโยคมีความหมายที่สมบูรณ์ ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์)        
She is a very beautiful girl.                                     เขาเป็นเด็กที่สวยมากคนหนึ่ง 
Where are you now?                                              ตอนนี้คุณอยู่ไหน        
I am an English student.                                    ฉันเป็นนักศึกษาภาษาอังกฤษคนหนึ่ง
ช่วยในประโยคปัจจุบันกาลกำลังกระทำ (S + is, am, are + v.1 ing)
บอกเล่า           She is cleaning the house.              เขากำลังทำความสะอาดบ้าน
คำถาม           Is she cleaning the house?             เขากำลังทำความสะอาดบ้านหรือ
ปฏิเสธ            She is not cleaning the house?      เขาไม่ได้กำลังทำความสะอาดบ้าน
ช่วยในประโยคอดีตกาลกำลังกระทำ (S + was, were + v.1 ing)
She was working at nine o’clock yesterday.             เมื่อวานตอน 9 โมง เขากำลังทำงาน
Was she  working at nine o’clock yesterday?           เมื่อวานตอน 9 โมง เขากำลังทำงานอยู่หรือ
She was not working at nine o’clock yesterday.      เมื่อวานตอน 9 โมง เขาไม่ได้กำลังทำงาน
ช่วยในประโยค Passive Voice (S + is, am, are, was, were + V.3) หรือประโยคที่ประธานถูกกระทำนั่นเอง
He is called Mr. Brown                                          เขาถูกเรียกว่า นายบราวน์
I was born in Surin.                                            ฉันเกิดในจังหวัดสุรินทร์
NESC center is located beside the river              ศูนย์ NESC (ถูก) ตั้งอยู่ข้างแม่น้ำ
All students are punished by a teacher.           นักเรียนทั้งหมดถูกตีโดยครู
ช่วยในประโยค Present Perfect Tense  (S + has, have +V.3)
She has stayed in Bangkok for 3 years.            เขาได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 3  ปีแล้ว
Monks have taugh Dhamma since 9 o’clock.              พระได้สอนธรรมะตั้งแต่เวลา 9 นาฬิกา
ช่วยในประโยค Past Perfect Tense   (S+ had + v.3)
You had spoken all the time.                                         คุณได้พูดตลอดเวลา
ช่วยในประโยคที่มีกริยาแสดงความรู้สึกอยู่ด้วย  (be + interested………….)
They are interested in English conversation.              พวกเขาสนใจในการสนทนาภาษาอังกฤษ
I was excited very much.                                     ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ
การทำประโยคคำถามและปฏิเสธ
ถ้าในประโยคนั้น   มีกริยาช่วยอยู่ สามารถตั้งคำถามได้เลย โดยวางกริยาช่วยไว้ข้างหน้าประโยค  และทำเป็นประโยคปฏิเสธ  โดยการเติม  not  ไว้หลังกริยาช่วย  เช่น                                                
บอกเล่า           He has lived in Bangkok.                 เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ
คำถาม           Has he lived in Bangkok?                เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ หรือ
ปฏิเสธ            He has not lived in Bangkok.                     เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ
บอกเล่า           You had spoken all the time.                   คุณได้พูดตลอดเวลา
คำถาม           Had you spoken all the time?                    คุณได้พูดตลอดเวลาหรือ
ปฏิเสธ           You had not spoken all the time. คุณไม่ได้พูดตลอดเวลา
บอกเล่า             They are interested in English.      พวกเขาสนใจในภาษาอังกฤษ
คำถาม           Are they interested in English?      พวกเขาสนใจในภาษาอังกฤษหรือ
ปฏิเสธ            They are not interested in English.           พวกเขาไม่ได้สนใจในภาษาอังกฤษ



บอกเล่า             You can speak English.                               คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้
คำถาม           Can you speak English?                   คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้หรือ
ปฏิเสธ           I cannot speak English.                   ฉันไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
บอกเล่า           Linda will have a party.                               ลินดาจะมีงานเลี้ยง
คำถาม           Will Linda have a party?                  ลินดาจะมีงานเลี้ยงหรือ
ปฏิเสธ           Linda will not have a party.           ลินดาจะไม่มีงานเลี้ยง
บอกเล่า             They may go dancing tonight.        คืนนี้ พวกเขาอาจจะไปเต้นรำ
คำถาม           May they go dancing tonight?       คืนนี้ พวกเขาอาจจะไปเต้นรำหรือ
ปฏิเสธ           They may not go dancing tonight.          คืนนี้ พวกเขาอาจจะไม่ไปเต้นรำ

แต่ ถ้าในประโยคนั้นไม่มีกริยาช่วยอยู่  มีแต่กริยาแท้ (Finite verb/ไฟไนท์ เวิร์บ)  เช่น
want                ต้องการ     drink                    ดื่ม           do                        ทำ,          
speak              พูด                    practice      ฝึกฝน        understand     เข้าใจ
teach               สอน         watch                  เฝ้าดู         cry                        ร้องไห้
sleep               นอน         swim                    ว่ายน้ำ      take            นำไป 
bring               นำมา        help            ช่วย          make                      ทำ สร้าง 
eat         กิน           have           มี กิน ได้รับ สูบ (บุหรี่)
ให้ใช้กริยาช่วย do does  did  มาช่วยในการตั้ง เป็นประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธ    โดยมีหลักดังนี้
ประโยคปัจจุบันกาล (Present Simple Tense) ประธานเอกพจน์ ให้ใช้  Does เช่น
บอกเล่า                   He comes from England.                    เขามาจากประเทศอังกฤษ
คำถาม           Does he come from England?                    เขามาจากประเทศอังกฤษหรือ
ปฏิเสธ           He does not come from Englandเขาไม่ได้มาจากประเทศอังกฤษ
บอกเล่า             Niramol has a car.                                     นิรมลมีรถ
คำถาม           Does Niramol have a car?              นิรมลมีรถหรือ
ปฏิเสธ           Niramol does not have a car.                  นิรมลไม่มีรถ
บอกเล่า           Toop eats fried chicken.                 ไอ้ตูบกินไก่ทอด
คำถาม            Does Toop eat fried chicken?                    ไอ้ตูบกินไก่ทอดหรือ
ปฏิเสธ           Toop does not eat fried chicken.   ไอ้ตูบไม่ได้กินไก่ทอด
ประธานพหูพจน์ ให้ใช้  Do เช่น
บอกเล่า             We work on Saturday.                      พวกเราทำงานในวันเสาร์
คำถาม           Do we work on Saturday?              พวกเราทำงานในวันเสาร์หรือ
ปฏิเสธ           We do not work on Saturday.                   พวกเราไม่ทำงานในวันเสาร์
บอกเล่า           You understand English.                             คุณเข้าใจภาษาอังกฤษ
คำถาม           Do you understand English?             คุณเข้าใจภาษาอังกฤษไหม
ปฏิเสธ           You do not understand English.      คุณเข้าไม่ใจภาษาอังกฤษ
บอกเล่า             They have dinner at home.           พวกเขาทานข้าวเย็นที่บ้าน
คำถาม           Do they have dinner at home?                  พวกเขาทานข้าวเย็นที่บ้านหรือ
ปฏิเสธ           They do not have dinner at home.         พวกเขาไม่ทานข้าวเย็นที่บ้าน
บอกเล่า           Sri and Sa do homework.                ศรีและษาทำการบ้าน
คำถาม           Do Sri and Sa do homework.?                 ศรีและษาทำการบ้านไหม
ปฏิเสธ           Sri and Sa do not do homework.            ศรีและษาไม่ทำการบ้าน

บอกเล่า             Students study English words.                นักเรียนท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ  
คำถาม           Do students study English words?           นักเรียนท่องศัพท์ภาษาอังฤษษไหม
ปฏิเสธ           Students do not study  English words.   นักเรียนไม่ต้องศัพท์ภาษาอังกฤษ

ประโยคอดีตกาล (Past Simple Tense) ไม่ว่าประธานจะเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์  ให้ใช้  Did เท่านั้น
บอกเล่า             You worked late last night.                     เมื่อคืนที่ผ่านมาคุณได้ทำงานดึก
คำถาม           Did you work late last night?                              เมื่อคืนที่ผ่านมาคุณได้ทำงานดึกหรือ
ปฏิเสธ           You did not work late last night.             เมื่อคืนที่ผ่านมาคุณไม่ได้ทำงานดึก
บอกเล่า           He/She studied hard.                               เขาเรียนหนัก
คำถาม           Did he/she study hard?                            เขาเรียนหนักหรือ
ปฏิเสธ           He/She did not study hard.                     เขาไม่ได้เรียนหนัก
บอกเล่า             They wanted to smoke.                           พวกเขาได้ต้องการที่จะสูบหรี่
คำถาม           Did they want to smoke?                        พวกเขาได้ต้องการที่จะสูบบุหรี่หรือ
ปฏิเสธ           They did not want to smoke.                            พวกเขาไม่ได้ต้องการที่จะสูบบุหรี่
บอกเล่า             She played a card last night.                               เมื่อคืนเขาเล่นไพ่
คำถาม           Did she play a card last night?                เมื่อคืนเขาเล่นไพ่หรือ  
ปฏิเสธ           She did not play a card last night.          เมื่อคืนเขาไม่ได้เล่นไพ่
บอกเล่า             The teacher  taught English.                    ครูได้สอนภาษาอังกฤษ
คำถาม           Did the teacher teach English?                ครูได้สอนภาษาอังกฤษหรือ
ปฏิเสธ           The teacher did not teach  English.                  ครูไม่ได้สอนภาษาอังกฤษ
บอกเล่า           You went to the Café last week.             เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคุณได้ไปคาเฟ่
คำถาม           Did  you  go to the Café last week?                  เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคุณได้ไปคาเฟ่หรือ
ปฏิเสธ           You did not go to the Café last week.              เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคุณไม่ได้ไปคาเฟ่
บอกเล่า             Suda enjoyed speaking English yesterday.     เมื่อวานนี้ สุดาสนุกกับการพูดภาษาอังกฤษ
คำถาม           Did Suda enjoy speaking English yesterday?  เมื่อวานนี้ สุดาสนุกกับการพูดภาษาอังกฤษหรือเปล่า
ปฏิเสธ           Suda did not enjoy speaking English yesterday.เมื่อวานนี้ สุดาไม่ได้สนุกกับการพูดภาษาอังกฤษ

 **ถ้า Need เป็นกริยาแท้  จะแปลว่า ต้องการ   และ  Dare จะแปลว่า กล้า, ท้า เผชิญ  เช่น
          He needs a rest for a moment.                เขาต้องการการพักผ่อนสักครู่หนึ่ง   
She dares to walk alone after midnight.          เขากล้าเดินคนเดียวหลังเที่ยงคืน
They need to study English again.             พวกเขาต้องการที่จะเรียนภาษาอังกฤษอีกครั้ง
และให้ใช้  do does did มาช่วยทำประโยคคำถามและปฏิเสธ เหมือน finite verb ทั่วไป เช่น
บอกเล่า          They need drinking-water.                        พวกเขาต้องการน้ำดื่ม
คำถาม           Do they need drinking-water?                               พวกเขาต้องการน้ำดื่มหรือ
ปฏิเสธ           They do not need drinking-water.                      พวกเขาไม่ต้องการน้ำดื่ม
บอกเล่า             She needs to go now.                                 เขาต้องการไปเดี๋ยวนี้
คำถาม           Does she need to go now?                                   เขาต้องการไปเดี๋ยวนี้หรือ
ปฏิเสธ           She does not need to go now.                               เขาไม่ต้องการไปเดี๋ยวนี้
บอกเล่า           The African needed food.                           ชาวแอฟริกันต้องการอาหาร
คำถาม           Did the African need food?                        ชาวแอฟริกันต้องการอาหารหรือ
ปฏิเสธ           The African did not need food.                              ชาวแอฟริกันไม่ต้องการอาหาร

บอกเล่า             The students dare me to jump.               นักเรียนท้าฉันให้กระโดด
คำถาม           Do the students dare me to jump?                     นักเรียนท้าฉันให้กระโดดหรือ
ปฏิเสธ           The students do not dare me to jump.             นักเรียนไม่ท้าฉันให้กระโดด
บอกเล่า             He dared to tell me the truth.                 เขากล้าบอกความจริงแก่ฉัน
คำถาม           Did he dare to tell me the truth?                        เขากล้าบอกความจริงแก่ฉันหรือ
ปฏิเสธ           He did not dare to tell me the truth.                  เขาไม่กล้าบอกความจริงแก่ฉัน
บอกเล่า             Nong dares to face the life problem alone.       หน่อง กล้าเผชิญปัญหาชีวิตเพียงลำพัง
คำถาม           Does Nong dare to face the life problem alone?หน่องกล้าเผชิญปัญหาชีวิตเพียงลำพังไหม
ปฎิเสธ           Nong doesn’t dare to face the life problem alone.หน่อง ไม่กล้าเผชิญปัญหาชีวิตเพียงลำพัง
*ถ้า Have  เป็นกริยาแท้  จะแปลว่า มีดื่มกินสูบ (บุหรี่),  ได้รับ, ให้ใช้ do does did
มาช่วยในการตั้งคำถามและปฏิเสธ  เช่น                            
บอกเล่า          He has a party today.                     เขามีงานเลี้ยงในวันนี้  
คำถาม           Does he have a party today?                  เขามีงานเลี้ยงหรือในวันนี้
ปฏิเสธ           He does not have a party today.   เขาไม่มีการงานเลี้ยงในวันนี้
บอกเล่า           You often have a cigarette.            คุณสูบหรี่บ่อยๆ
คำถาม           Do you often have a cigarette?     คุณสูบบุหรี่บ่อยๆ หรือ 
ปฏิเสธ           You do not often have a cigarette.         คุณไม่ได้สูบบุหรี่บ่อยๆ 
บอกเล่า          They had breakfast.                        พวกเขาทานข้าวเช้าแล้ว
คำถาม           Did they have breakfast?              พวกเขาทานข้าวเช้าแล้วหรือ
ปฏิเสธ           They didn’t have breakfast.           พวกเขาไม่ได้ทานข้าวเช้า
แบบฝึกหัด       จงทำเป็นประโยคบอกเล่าที่ให้ไว้ เป็นประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธ ตัวอย่างเช่น      
Your students can speak English.
คำถาม  =   Can your students speak English?                  ปฏิเสธ             =   Your students cannot speak English.
His son may go tomorrow.
They are your students.
She is studying English words.
Doctor will tell you tomorrow.
Mr. Sombat has studied English for 3 years.
He goes to school everyday.
Somchai wants to visit you.
Dog has 4 legs.
She does her homework.
Nobody likes him.
You work hard.
Drivers drive cars carefully.
They break the window.
Napa and Napat have breakfast at school.
Cats eat fish.
He stopped smoking.
ที่มาของข้อมูล : pirun.ku.ac.th/~fengsnc/English/Helping%20verb%20for%20Intro.doc
http://alfaguara.wikispaces.com/exercises2012-13

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น